• Home
  • /
  • Category Archives: บทความ

เรื่องสยองตึกเช่าย่านพระราม 2 (2)

พิมพ์เล่าเรื่องนี้ให้แม่ฟังคะ แม่พิมพ์ก็ไม่สบายใจกลัวว่าลูกสาวจะเจออะไรก็เลยพาพิมพ์ไปทำบุญคะ หลังจากนั้นพิมพ์ก็หลับไม่ได้สบายขึ้น แต่ LYNBLUE89 เสียงแคะประตูกับเสียงเหมือนคนกระแทกประตูก็มีให้ได้ยินบ้างเป็นบางคืน วันนึงมีคนเก็บขยะเดินเข้ามาคุยกับอาของพิมพ์ว่าขยันจังเลยเปิดร้านทั้งวันทั้งคืน รวยแล้วมั้ง อาของพิมพ์ก็อึ้งคะ เพราะร้านเกมของอาเปิดถึงแค่เที่ยงคืนเท่านั้น นึคือว่าดึกสุดๆแล้ว ปกติถ้าลูกค้าไม่ได้เล่นอะไรต่อ 5 ทุ่มก็ปิดร้านแล้วคะ อาของพิมพ์ก็เลยบอกคนเก็บขยะว่าผมปิดร้านตั้งแต่ 5 ทุ่มนะลุง ดึกสุดก็ไม่เกิดเที่ยงคืน ลุงตาฟาดรึป่าว ลุงแกก็เถียงคะ จะตาฟาดอะไรฉันยืนเก็บขยะหน้าร้าน ข้างในมีผู้หญิงผมยาวกับเด็กนั่งอยู่บนเก้าอี้ อาพิมพ์ก็ไม่ได้พูดอะไรกลับไป ( อาของพิมพ์ไม่มีลูกนะคะ เพราะแฟนอามีความผิดปกติที่มดลูกทำให้ไม่สามารถมีลูกได้ ) จากเรื่องที่คนเก็บขยะเล่าให้ฟัง แม่พิมพ์ก็ไม่สบายใจคะบวกกับสิ่งที่พิมพ์เจอด้วย แม่เริ่มสงสัย อาก็เงียบคะไม่ยอมเล่าอะไรให้ฟัง พ่อพิมพ์เองก็ว่าแม่คิดมากไปรึป่าว ไม่มีอะไรหรอก ต่อมาพิมพ์ได้ลูกแมวจรจัดมาเลี้ยงคะ พิมพ์เลยเอาขึ้นมาอยู่ที่ห้องด้วยเพราะห้องของเทอกว้าง ตอนหัวค่ำพิมพ์จะเปิดประตูห้องแล้วดูทีวี แม่ก็จะอยู่ชั้นลอยคะ ทำกับข้าว อากับแฟนจะอยู่ชั้นล่างดูร้านเกม ส่วนพ่อพิมพ์ทำงานกลับดึกคะ ระหว่างที่พิมพ์ดูทีวีอยู่ ลูกแมวที่อยู่กันก็มีอาการแปลกๆคะ อยู่ๆมันก็เดินเข้าไปใกล้ๆประตูห้องแล้วร้องขู่ พิมพ์เหนก็งงว่าแมวเป็นอะไร พิมพ์จึงเรียกแมวให้กลับมานั่งข้างๆคะ แต่ LYNBLUE89 มันไม่ยอมมายังคงร้องขู่แล้วทำท่าทางเหมือนกลัวอะไร พิมพ์เลยเดินไปอุ้มแมวมาแล้วพูดว่าไม่เหนจะมีอะไรเลยร้องทำไม เพราะข้างนอกก็ไม่มีใครเลยคะ ชั้น 3 ที่อยู่ก็มีแค่พิมพ์กับแมว ตอนนั้นเองพิมพ์ก็ไม่ได้คิดอะไรคะเพราะคิดว่าลูกแมวคงยังไม่คุ้นรึป่าว   แต่ก็ไม่ใช่ครั้งเดียวคะที่แมวแสดงอาการแบบนี้ บางครั้งแมววิ่งหนีไปทางประตูระเบียงเหมือนกับว่ามีใครไล่มัน…

เรื่องสยองตึกเช่าย่านพระราม 2 (1)

ซอยนี้จะเป็นซอยใหญ่ติดกับถนนเลยคะ ที่พักอาศัยแถวนี้เป็นตึกแถวแทบทั้งหมด บ้างก็ 4 ชั้น 5 ชั้น แตกต่างกันไปคะ ครอบครัวของเพื่อนเราเขาไม่มีบ้านเป็นของตัวเองคะ เขาต้องย้ายออกจากบ้านเช่าหลังเก่าเพราะเจ้าของบ้านจะขายบ้าน พ่อของเพื่อนเราตัดสินใจย้ายมาอยู่กับน้องชายเขาที่เช่าอยู่ตึกนี้คะ เพราะมีหลายชั้น แบ่งกันอยู่แชร์ค่าเช่าจะได้ถูกลง สมมติว่าเพื่อนเราชื่อ “พิมพ์” นะคะ พ่อก็พาแม่และพิมพ์เขามาดูที่ตึก โดยชั้นล่างอาของพิมพ์เป็นร้านเกมคอมฯ คะ พอขึ้นมาอีกชั้นจะเป็นชั้นลอย เอาไว้เก็บของ เป็นชั้นโล่งๆไม่มีห้อง ไม่รก พอขึ้นไปอีกเป็นชั้น 2 คน อาของพิมพ์กับแฟนนอนชั้นนี้ ถัดไปเป็นชั้น 3 คะ มี 2 ห้อง คือห้องที่ติดกับบันไดทางขึ้นมาจากชั้น 2 ( ขอเรียกห้องนี้ว่าห้องใหญ่นะคะ )หน้าห้องใหญ่นี้มียันต์ติดหน้าห้อง5 แผ่นใหญ่ๆคะ ทั้งยันต์ไทย จีน และห้องตรงข้ามที่ติดกับบันไดทางเดินขึ้นไปชั้น 4 ( ขอเรียกห้องนี้ว่าห้องเล็กนะคะเพราะขนากห้องเล็กกว่าห้องตรงข้ามมาก ) แม่พิมพ์เห็นห้องเล็กก็เลยบอกว่าให้พิมพ์มานอนห้องนี้แล้วกัน เล็กๆดี เหมาะกับนอนคนเดียว อาของพิมพ์ก็พูดขึ้นมาว่า เว็บคาสิโนที่ดีที่สุด LYN68 ไม่ได้นะ ห้องนี้นอนไม่ได้ แม่ของพิมพ์ก็เอะใจว่าทำไมถึงนอนไม่ได้…

เรื่องสยองวิญญานหลอน แขกไม่ได้รับเชิญ

เรา มีประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับ จขกท. มาฝากเพื่อนๆ ที่ชอบอ่านเกี่ยวกับเรื่องหลอนนึ้เป็นกระทู้แรก หากผิดพลาดประการใดต้องขอโทษด้วยนะค่ะ เราเป็นคนภาคอิสาน เรียนจบจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคอิสาน พอเรียนจบเราได้มีโอกาสมาทำงานที่ โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งที่จังหวัดสมุทรปราการ โรงเรียนมีหอพักครูอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่หลังโรงเรียน หมู่บ้าน นี้ใหญ่มากมีซอยเยอะมาก ซึ่ง LYNBET หอพักครูจะอยู่ระหว่างซอยที่ 17-19 หอพักมีสองชั้น เราได้ห้องข้างล่างห้องที่สอง หลังห้องเราเป็นบ้านร้างไม่มีคนอยู่อาศัย ต้นไม้ขึ้นรกมาก หญ้าวัชพืชขึ้นปกคลุมบริเวณบ้าน และที่สำคัญร้านขายของชำอยู่ไกลมาก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะอยู่ซอย 3 เวลาไปชื้อของก็ยืมจักรยานพี่ที่หอ เรา ชอบปั่นจักรยานออกมาชื้อของเวลา 20.00-21.00 เป็นประจำ วันแรกที่เราปั่นจักรยานเพื่อที่จะไปชื้อของเราปั่นไปซอยที่ 19 ปั่นไปไม่ถึงครึ่งซอยก็มี LYNBET สุนัขไล่กัดอย่างเอาเป็นเอาตาย และก็เห่า มันน่ากลัวมาก วันต่อมาเราก็ปั่นจักรยานไปชื้อของอีกแต่ทีนี้เราเปลี่ยนซอย เป็นซอยที่ 18 ปรากฏว่าไม่ต่างจากซอยที่ 19 เลย วันต่อมาเราก็ปั่นจักรยานไปชื้อของอีกเราปั่นซอยที่ 17 ในขณะที่ปั่นไปก็คิดว่าจะเป็นเหมือนกับ 2 ซอยที่ผ่านมาไหม ปรากฏว่าทุกอย่างเงียบกริบ ไม่มีสุนัขออกมาไล่กัดสักตัว เห่าก็ไม่มีบรรยากาศสองข้างทางเป็นเท้าว์เฮ้าท์สองชั้น มัดูรกร้างต้นไม้ขึ้น ใบไม้หล่นในบริเวณเท้าว์เฮ้าท์ มีคนอาศัยอยู่แค่ไม่กี่หลัง ทำให้ดูวังเวงมาก…

คำสาปบนดอยสูง โดยสมาชิกหมายเลข 1001408

วิถีชีวิตของชาวเขาเผ่าต่างๆที่อาศัยอยู่บนดอยสูงนั้นวัฒนธรรมพวกเขาเคยสงบหยุดนิ่งมาหลายชั่วอายุคน ปัจจุบันเริ่มเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสโลกยุคใหม่มากขึ้นวัยรุ่นแต่งตัวเกาหลี วัฒนธรรมจากภายนอกหลั่งไหลเข้าไปและรับเอาโดยคนรุ่นใหม่อย่างไม่ยากเย็นวิถีเก่าๆ จึงค่อยๆจืดจางลงไปตามกาลเวลา เว็บคาสิโนที่ดีที่สุด LYNBLUE89 แต่มีบางสิ่งยังคงอยู่ แม้กาลเวลาจะผ่านไปนานเท่าใดก็ตามในอดีตเรือกสวนไร่นาของชาวเขา ส่วนใหญ่จะอยู่ห่างจากหมู่บ้าน ลัดเลาะไปตามไหล่เขาไกลบ้างใกล้บ้างเนื่องจากพื้นที่ปลูกพืชที่ดีๆหายาก แต่ละครอบครัวจึงต้องเดินเข้าป่าลึกเพื่อถากถากจับจองกันเองตามกำลังเมื่อพืชผลเจริญงอกงาม ด้วยระยะทางจากบ้านมาก็ไกลโข จึงเกิดความระแวงว่าแขกไม่ได้รับเชิญจะมาเก็บเอาผลผลิตไปโดยวิสาสะจึงต้องมีพิธีกรรมบางอย่างเกิดขึ้น เริ่มจากตระเตรียม LYNBLUE89 สำรับกับข้าวของคาวของหวานและเหล้าสำหรับเซ่นไหว้จนครบแล้ว จึงเริ่มการสวดด้วยคาถาอาคมที่สืบทอดกันมาหลายรุ่นคาถานั้นเป็นคำสาปแช่งให้ผู้ที่เอาของจากไร่โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นให้มีอันเป็นไปหลังจากนั้นหัวหน้าครอบครัวก็จะสั่งคนในบ้านว่า ห้ามกินของในไร่เป็นอันขาดจนกว่าจะถึงฤดูเก็บเกี่ยวแต่แล้วก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ ครอบครัวนี้มีลูกหลายคน และหลายวัยเด็กชายตัวเล็กๆ ติดตามพ่อแม่ไปทำงานในไร่ทั้งพ่อทั้งแม่มัวแต่ยุ่งกับงานในไร่ จึงไม่ได้สนใจลูกฝ่ายลูกชายที่มัวเล่นเพลิน ด้วยความหิว จึงคว้าเอาพุทราผลหนึ่งเข้าปาก และตามด้วยอีกผลด้วยความเอร็ดอร่อยกระทั่งเย็นย่ำ สามพ่อแม่ลูกจึงเดินทางกลับเข้าหมู่บ้านภรรยาหุงหาอาหารเสร็จสรรพเรียบร้อย จึงเรียกทุกคนล้อมวงกินข้าวกันหลังจากกินได้ไม่นานลูกชายคนเล็กก็ล้มลง ตัวโก่งตัวงอ ปากร้องว่า “ปวดท้องๆ”แม่ตกใจลนลาน รีบไปหายาสมุนไพรแก้ปวดท้องมาให้กิน อาการก็ยังไม่ทุเลาคนเป็นพ่อเริ่มเอะใจว่าไม่น่าจะปวดท้องแบบธรรมดาซะแล้ว ในใจนึกว่าขออย่าให้เป็นดังที่คิดเลย ทนไม่ไหวเต็มทีจึงถามลูกว่า “ตอนกลางวัน นอกจากข้าวที่เตรียมมา แกไปกินอะไรอีก” ลูกชายฝืนใจตอบอย่างยากเย็น“พุทรา” คนเป็นพ่อตกใจ“พุทราที่ไหน”“ในไร่เรา”“ฮ้า!!!…..” พ่อใจหล่นวูบ เป็นดังที่คิดเสียแล้ว กระวีกระวาดเตรียมของจำเป็นสำหรับไหว้แล้ว คว้าไฟฉายแล้ววิ่งไปไร่ทันที หนทางไปไร่มืดสนิทมีแต่แสงไฟฉายนำทางวูบๆวาบๆ เหนื่อยแทบขาดใจจึงถึงไร่ วางเครื่องเซ่นลงจัดแจง ใจยังเต้นตุ้บๆ ปากแทบจะท่องคาถาไม่เป็นคำหลังจากว่าคาถาคลายคำสาปแช่งเสร็จ เชื่อว่ามนต์นั้นถูกคลายแล้วอย่างแน่นอนเก็บข้าวเก็บของเสร็จวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตกลับมาบ้านกระหืดกระหอบขึ้นบันได ถามเมียว่าลูกเป็นอย่างไร เมียหันหลังให้ เห็นแต่หัวกับเท้าลูกพาดบนตัก “ลูกเราเสียแล้วพี่ ฮือ..ฮือ…” คนเป็นพ่อน้ำตาคลอเบ้า…

ผีโรงแรม โดยคุณ Gleamung28

เรื่องเกิดขึ้นเมื่อประมาณช่วงเดือนสิงหา 2556 ค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า แม่และทางสำนักงานต้องไปจัดบู๊ทและเข้าประชุมในกิจกรรมวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ พ.ศ.2556 ระหว่างวันที่ 6-21 สิงหาคม 2556 ณ BITEC บางนา แต่ทางสำนักงานของแม่ถูกจัดให้เข้าร่วมงานวันที่ 13 สิงหาค่ะ ซึ่งพวกเราเลยเลือกเดินทางกันเช้า 12 สิงหาคม ประมาณ 10 โมงเช้า เราและน้องสาวก็ติดสอยห้อยตามแม่ไป เพราะแม่อยากให้เป็นเพื่อน LYN68 กับ12ชั่วโมงที่เดินทางด้วยรถตู้จากขอนแก่นถึงกรุงเทพฯ เป็นช่วงเวลาที่ลำบากมาก ขาเข้ากรุงเทพติดแหงก จราจรเป็นอัมพาตเพราะคนเดินทางกลับจากต่างจังหวัดพอดีค่ะ โรงแรมที่อ่านรีวิวแล้วรีวิวเล่าแบบดีๆ หลายดาวที่จองไว้ก็มี แต่ก็ป่วยการเมื่อมาถึงบางนาในประมาณ 4เกือบ5ทุ่ม ฝนตกหนัก ถนนน้ำท่วม มองไม่เห็นทางอีก จะไปโรงแรมที่จองไว้ก็ไม่ได้ เพราะฝนตกหนักมากค่ะ ก็เลยพากันตัดสินใจว่าจะหาโรงแรมแถวไบเทคนอนเลยละกัน ตื่นเช้ามาจะได้ไปง่าย รถไม่ติดเท่าไหร่ (ลืมบอกไปค่ะ มีสมาชิกไปกัน 6 คนมีเรา น้องสาว แม่ ลุงที่ทำงานแม่ น้าที่ทำงานแม่และคนขับค่ะ) เมื่อขับรถวนหาโรงแรม โรงแรมแล้วโรงแรมเล่า สุดท้าย…เราก็เจอโรงแรมเจ้าปัญหาซึ่งเป็นสาเหตุของเรื่อง..เมื่อคนขับรถเลี้ยวเข้าโรงแรมนั้น เราพบถึงความวังเวงมากกกกกกกกกกกก -o- รถจอดที่หน้าทางเข้าไปเค้าท์เตอร์หน้าโรงแรม…

เรื่องเล่าจากประสบการณ์กับบ้านพักสยองขวัญ(10)

เมื่อลุงเห็นแบบนั้น ลุงได้จุดธูปที่โต๊ะพระเครื่อง แล้วนั่งพนมมือสวดมนต์ ลมได้พัดแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ลุงสวดมนต์ ไฟในบ้านลุงก็เกิดดับ เหลือแต่ไฟจากแสงเทียน เสียงโหย หวน ได้ดังผ่านมาตามลม พอลุงสวดมนต์จบได้เดินไปที่หน้าบ้านแล้วพูดว่า LYNBET พวกมิงอยู่ที่ไหน พวกมิงกลับไปเดี๊ยวนี้ อย่ามายุ่งทีของกู ” เสียงลม เสียงร้อง ได้เงียบหายไป เหตุการณ์ได้กลับมาปกติอีกครั้ง ฉันได้ถามลุงเกี่ยวกับผู้หญิงที่ลุงเจอที่บ้านหลังนั้น ว่ามีรูปร่าง ลักษณะอย่างไร ลุงบอกลักษณะน้องคนนั้นมา ซึ้งตรงกับน้องที่นอนอยู่กับดิฉันที่บ้านหลังนั้น ฉันคิดว่าใช้น้องคนนั้นจริง ๆ      ขอย้อนกลับไปตอน LYNBET ส่งฝาแฝดไปโรงพยาบาล น้องที่นอนกับดิฉันได้ขอตัวกลับบ้าน เพราะทนไม่ไหวกลับสิ่งที่เกิดขึ้น ฉันกับพี่หัวหน้าก็ไม่ห้ามอะไรเห็นน้องทนไม่ไหว แต่เมื่อน้องกลับไปแล้ว มี message ส่งมาบอกพวกเราว่า ” พวกมิงทุกคนต้องตาย ” ตอนนั้นเรายังไม่ทราบว่าน้องคนนั้นต้องการอะไรกันแน่  พอกลับไปที่ กทม ไปตามหาที่ห้องพัก ก็ไม่เจอน้องคนนั้นแล้ว น้องได้กลับมาเก็บของย้ายออกไปแล้ว      พอถึงตอนเช้าเราเลยถามลุงว่ามีวิธีไหนที่แก้เรื่องแบบนี้ ลุงบอกถ้าอยากจะช่วยจริง ๆ ให้พาพ่อแม่ของคนที่เสียชีวิตมาหาลุงเพื่อจะได้ทำพิธี เราได้โทรไปนัดหมายพ่อแม่ ให้มาทำพิธี ลุงบอกให้เตรียมข้าวของเครื่องใช้ของคนตาย ผ้าถุงแม่กับผ้าขาว มาเพื่อประกอบพิธี…

เรื่องเล่าจากประสบการณ์กับบ้านพักสยองขวัญ(8)

จากที่เงานั่งจองดิฉันอยู่ที่ระเบียง    ดิฉันก็ไม่สนใจนั่งหลับตา ทำสมาธิต่อไป คือดิฉันหลับไปตอนไหนไม่รู้ ดิฉันมารู้สึกตัวอีกทีก็เช้าแล้ว ดิฉันหันไปดูที่หน้าต่าง เห็นแสงพระอาทิตย์ จึงเปิดประตู ลงไปข้างล่าง เห็นแม่กับลุง ได้เตรียมของกัน มีดอกไม้ ธูปเทียน เสื้อผ้าชุดสีขาว และผ้าดิบ  เรานั่งทานข้าวกัน แล้วลุงก็ถามว่าเมื่อคืนเอ็งคงเจอหนัก เอ็งรีบทำอะไรให้เสร็จแล้วไปหา พระป่าด้วยกัน เราช่วยกันแบกสิ่งของต่าง ๆ ขึ้นหลังรถ แล้วเดินทาง  วัดของท่านพระป่า อยู่ห่างจากตัวเมืองไปมาก ทางเข้าลำบาก เป็นดินแดง ตลอดทาง กว่าจะถึงก็เอาเรื่องเหมือนกัน เว็บคาสิโนที่ดีที่สุด lynbet     พอไปถึงท่านพระป่าก็ได้เดินมาหาเรา บอกให้ดิฉันไปเปลี่ยนใส่ชุดขาว หลังจากที่เปลี่ยนชุดเสร็จ ดิฉันได้คุยกับพระ ก็เลยถามว่า พี่อีกคนหนึ่งจะเป็นอะไรไหม พระท่านก็บอกว่า เอ็งไม่ต้องเป็นห่วงเค้าหลอก เค้ามีคนช่วยเหลืออยู่ เอ็งควรเป็นห่วงตัวเองดีไหม ถ้าเอ็งผ่านคืนนี้ไปไม่ได้เอ็งก็คงได้ตามเพื่อน ๆ ของเอ็งไป  พอพูดจบ ลุงได้ยกโรงศพ เก่า ๆ มาวาง แล้วบอกว่าคืนนี้เอ็งต้องนอนในโรงศพผีตายโหง  เวลาประมาน 6 โมงเย็น ดิฉันได้เข้าไปในโรงศพ ตัวของดิฉัน ถูกพันด้วยผ้าดิบ พนมมือ ถือดอกไม้ธูปเทียน ทำเหมือนเป็นคนตาย แล้วลุงก็ยกโรงของดิฉันไปไว้ที่หนึ่ง…

เล่าเรื่องผี “น้าแย้ม” ตอนที่ 15

ลุงพุฒิให้ลุงยศเดินไปหยิบถุงผ้าในรถสักพักลุงยศก็เดินกลับมาพร้อมถุงผ้าสีขาว ลุงพุฒิล้วงเข้าไปหยิบสายสิญจน์แล้วเดินไปที่กอไผ่ LYNBET เอาปลายด้านหนึ่งผูกไว้กับลำไผ่แล้วเดิมวนอ้อมรอบกอไผ่กอนั้นหลายรอบจบแล้วก็มายืนด้านหน้าของเหล่านั้น พึมพำอยู่ครู่แล้วโยนสายสิญจน์ที่เหลือเข้าไป ขณะนั้นเป็นเวลาบ่ายแก่แล้วแดดร้อนจัด  ตาก็เอาไม้ขีดมาให้ลุงพุฒิลุงพุฒิจุดไม้ขีดก้านแรก ไฟลุกพรึบขึ้นมาแล้วก็ดับพรึบทันทีราวกับมีคนเป่าลมใส่ ลุงพุฒิก็หยิบขึ้นมาอีกก้านก็เป็นอาการเดิมคือยังไม่ทันจะต่อเชื้อ ไฟก็ดับอีก ลุงพุฒิก็ส่ายหัวบ่นพึมพำ ลุงยศก็ถามว่า ผีเป่ารึเปล่าลุงพุฒิได้แต่ยิ้มๆ ก็บอกให้หาน้ำมันก๊าดมาให้หน่อย LYNBET ต้องรีบทำเวลาหน่อย ลุงยศก็ไปหยิบน้ำมันฉีดราดแถวโคนกอไผ่ลุงพุฒิบอกว่าพอเห็นของด้านในโดนเผาแล้ว ก็ฟันต้นไผ่ที่เหลือลงมาเผาด้วย เดี๋ยวไฟลามจะคุมยากแต่ต้องรอให้ของพวกนั้นโดนเผาก่อนนะอย่าลืม ลุงยักษ์กับลุงยอดก็เดินออกมาสมทบ ลุงพุฒิถามว่าแย้มเป็นยังไง ลุงยักษ์ก็บอก นอนสั่นเป็นเจ้าเข้า ยายกับน้าเย็นนั่งเฝ้าอยู่ลุงพุฒิวานลุงยอดให้เข้ามาช่วยกัน เผื่อไฟลามไปทางอื่น ส่วนลุงยักษ์  ลุงพุฒิบอกว่า“กลับไปนั่งด้านในนะ ไปอยู่เป็นเพื่อนแม่ เดี๋ยวจะตกใจ” พอลุงยักษ์เดินกลับเข้าไป ลุงพุฒิก็บอกว่า เอ๊า จุดละนะ ช่วยกันดูด้วย ลุงพุฒิจุดไม้ขีดอีกก้าน  คราวนี้ไม่ดับ (สงสัยไม่มีลม) แล้วโยนไปตรงเศษใบไผ่แห้งที่ราดน้ำมันจนชุ่ม ไฟลุกพรึบขึ้นมาอย่างรวดเร็วลามไปจนถึงใจกลางกอไผ่ จากนั้นก็มีเสียง ฝุด ฝุด ฝุด ฝุด ดังมาจากด้านในแล้วตามด้วยเสียงกรี๊ดของน้าแย้ม ดังมาก ตากับแม่ที่ยืนอยู่ด้านนอกก็ตกใจ ตะโกนถามเข้าไปในบ้านว่า มีอะไร!? แย้มเป็นอะไร ยายก็ตะโกนกลับมาว่า ไม่รู้ อยู่ดีๆก็กรี๊ดขึ้นมาตอนนี้สลบไปแล้ว ทำยังไงดี ลุงยักษ์บอกไม่เป็นไรแม่…

เล่าเรื่องผี “น้าแย้ม” ตอนที่ 16

ไฟไหม้จนโคนไผ่ดำเป็นตอตะโก และเริ่มลามขึ้นไปเรื่อยๆ เสียง ฝุด ฝุด ด้านใน ก็ค่อยๆเบาเสียงลงเรื่อยจนได้ยินแต่เสียงไฟที่เผาไม้แทน ลุงพุฒิเลยบอกให้โค่นต้นไผ่ที่เหลือลงมาให้หมดห็นเหลือลุงยศอยู่คนเดียว หมอยาก็หยิบมีดมาช่วยฟันเสร็จแล้วก็ลากลำไผ่ LYN68 ที่ลุงยักษ์กระซวกทิ้งไว้ (ไม่รับผิดชอบ) ขนมารวมกันแล้วราดน้ำมันก๊าดทยอยเผาลุงพุฒิบอกว่า ใครจะไปโรงพยาบาลให้เตรียมตัวเลยได้เลย จะออกเดินทางกันแล้วส่วนใครที่ไม่ไปก็เฝ้ากอไผ่ที่ไฟยังลุกไหม้อยู่ สรุปคือ ตา, ลุงยศ, น้าเย็น รออยู่ที่บ้านส่วนลุงพุฒิ, ยาย, หมอยา, ลุงยักษ์, ลุงยอด แม่จะพาน้าแย้มเข้าโรงพยาบาลในตัวจังหวัดลุงพุฒิเลยเร่งทุกคนบอกให้รีบขึ้นรถ แม่วิ่งเข้าไปหยิบเสื้อมาแค่ตัวเดียว ยายก็เก็บของใช้ที่เท่าจำเป็นเสร็จแล้วก็เดินเข้าไปหาน้าแย้มน้าแย้มยังนอนหลับอยู่ ไม่เหมือนคนป่วย LYN68 ไม่มีอาการเกร็ง ยายบอกให้ลุงยอดเข้าไปอุ้มน้องลุงยอดถามว่าคงไม่ดิ้นอีกนะ ลุงพุฒิก็บอกว่าไม่ดิ้นแล้ว สงบแล้ว แต่ระวังไว้ก็ดี ลุงยอดก็สงสัย ระวังอะไรแล้วจึงเข้าไปอุ้มน้าแย้ม น้าแย้มก็นอนนิ่งให้อุ้ม ไม่ดิ้นเหมือนตอนแรกแต่เรื่องแปลกก็ยังไม่จบ แม่จำแม่นว่ายืนอยู่ตรงนั้น ดูเหตุการณ์แปลกๆนั้นด้วยความประหลาดใจลุงยอดซึ่งเป็นวัยรุ่น ร่างกายค่อนข้างจะบึกบึนสมส่วน เพราะทำงานในสวน ในไร่มาตั้งแต่ยังเล็กกลับอุ้มเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆไม่ขึ้น ยกขึ้นมาได้แค่นิดเดียว ก็ต้องวาง ทุกคนก็งงบอกว่าลุงยอดเล่นอะไร คนกำลังรีบๆลุงยอดก็เข้าไปลองอีกที ก็เหมือนเดิม ยกขึ้นมาได้นิดเดียวก็ต้องวาง ลุงยอดบ่น “อะไรเนี่ย ทำไมตัวหนักแบบนี้วะเนี่ย?” ทุกคนก็งงๆ ลุงยักษ์จึงเดินแทรกเข้ามาบอก มึงยิ้มหลบไป…

เล่าเรื่องผี “น้าแย้ม” ตอนที่ 14

ตากับหมอยาพร้อมลุงยศ เดินตามเข้าไปดูก่อน แม่จึงคว้ามือลุงยอดเดินตามเข้าไปด้วยแม่ได้ยินเสียงลุงพุฒิเตือนว่าอย่าเข้าไปใกล้มากสิ่งนั้น ไม่เพียงมีกลิ่นที่ชวนให้คลื่นเหียน มองเผินๆ เหมือนใยแมงมุม lynblue89 แต่พอเข้าไปใกล้ๆดูชัดๆก็เห็นว่าเป็นเมือกใสๆเหมือนกาวยาง ระโยงระยางห้อยซ้อนกันไปมา น้ำเหนียวๆยืดห้อยต่องแต่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว ใต้เมือกเหนียวๆ มีเศษซากอะไรบางอย่างแม่บอกว่าตอนแรกนึกว่าเป็นเศษใบไผ่ที่กองทับกันจนแห้งเหี่ยว แต่พอมองดูดีๆ สิ่งนั้นมันคล้ายลำไส้หรืออวัยวะ(คนหรือสัตว์ก็ไม่รู้) ที่ถูกฉีกจนยุ่ย เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกองรวมกับเศษผ้าเก่าๆ แล้วก็ปอยผมเล็กๆ lynblue89 หลายปอย ดีที่อวัยวะพวกนั้นแห้งกรังไปหมดแล้วแม่ทนไม่ไหวเดินออกมาอาเจียน เห็นหมอยาเดินหลบมาคุยกับลุงพุฒิ ระหว่างนั้นเองลุงยศก็หยิบลำไผ่ที่เกลื่อนอยู่กับพื้นขึ้นมา 1 ลำแล้วเอาไปเขี่ยเมือกที่อยู่ตรงหน้า ลุงพุฒิหันมาเห็นก็บอกว่าอย่าไปถูกมันแต่ช้าไปแล้ว ลุงยศเขี่ยไปแล้ว พลันที่ลุงยศเขี่ยเมือกใสนั้น  น้าแย้มที่ตอนแรกนอนอยู่ในห้องลากเท่าไหร่ก็ไม่ยอมไปไหน โผล่พรวดมายืนตรงประตูหลังบ้านสีหน้าบึ้งตึง แล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมา ลุงพุฒิตะโกนบอกให้จับน้าแย้มกลับเข้าไปในห้องลุงยอดเข้าไปจับไว้ แต่ก็เหมือนเดิมคือ สู้แรงเด็กสาวอายุไม่เกิน 15 ไม่ได้ แม่ก็เดินเข้ามาช่วย บอกว่า“แย้มออกมาทำไมเข้าไปรอในบ้านก่อน” น้าแย้มไม่สนใจเลย ผลักแม่จนเกือบจะล้ม ลุงยักษ์เลยเดินเข้าไปขวางจับไหล่แล้วบอกว่า “แย้ม เข้าบ้านไปก่อน” น้าแย้มหันมามองลุงยักษ์ แต่ก็ไม่สนสะบัดมือจะเดินต่อ แต่ลุงยักษ์ไม่ปล่อย ตบหน้าน้าแย้มเสียงดังเผี๊ยะ “กรูบอกให้ไปรอในบ้าน” ตากับแม่ก็ตกใจ แต่น้าแย้มก็ไม่ยอมดิ้นแรงมาก จนลุงพุฒิเดินเข้ามาเอาสีผึ้งป้ายตรงหน้าผาก หน้าแย้มก็หยุดดิ้น มีอาการเหมือนเดิมคือตาเหลือก เกร็ง แล้วลุงพุฒิก็บอกให้ลุงยักษ์กับลุงยอดพาน้าแย้มกลับเข้าไปรอในห้อง เสร็จแล้วลุงพุฒิก็เดินเข้าไปคุยกับตา…